ผู้เยี่ยมชมเว็บ

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ปาร์ตี้ปีแสง 2012 เคาท์ดาวน์ปีใหม่ ที่ขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่นเตรียมจัดงานเคาท์ดาวน์ปาตี้รับปีแสง 2012 ภายใต้แนวคิด มหัศจรรย์โลกแห่งแฟนตาซี หรือ Sparkting Fantasy World เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนาน ผสมผสานการชมที่น่าตื่นตาตื่นใจ 

     และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆของผู้ร่วมงาน ที่จะมีโชคลาภกลับบ้าน ในช่วงค่ำคืนอันแสนประทับใจ ระหว่างวันที่ 29-31 ธันวาคม 2554 ที่ถนนหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่นและสวนสาธารณะประตูเมืองขอนแก่น

     การจัดงานเคาท์ดาวน์ในครั้งนี้ ผู้ร่วมงานจะได้สัมผัสกับสวนสาธารณะที่ถูกเนรมิตให้ประตูเมืองขอนแก่นกลายเป็นสวนแห่งจินตนาการ ด้วยแสงสีเสียงที่ถูกปลุกให้ความฝันกระโจนโลดแล่นขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมด้วยการยิงเลเซอร์ประตูเมือง เพื่อให้ผู้ร่วมงานร่วมนับถอยหลังพร้อมกันสู่ปี 2012

     กิจกรรม : 

     วันที่ 29 - 30 ธันวาคม 2554 

     - สวนเรืองแสง
     - กิจกรรมและอาหารต่างๆ

     วันที่31 ธันวาคม 2554 

     - ถนนแห่งการเฉลิมฉลอง
     - การแสดงเวทีกลาง
     - บูธเกมส์ - การโชว์แสงเลเซอร์ที่ประตูเมือง เพื่อให้ผู้มาร่วมงานร่วมนับถอยหลังพร้อมกัน 

ทรงผม 2012 มาเปลี่ยนลุครับปีใหม่กันเถอะ

.ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ต้องทำตัวสดใสร่าเริงเข้าไว้ มาอัพเดทเทรนด์ทรงผมปี 2012 ให้สาวๆ women mthai ไปแปลงโฉมต้อนรับปีใหม่กันดีกว่า ทรงผมของคุณสาวๆในปี 2012 จะเป็นอย่างไรมาชมกันเลย…
ทรงผมสั้้น 2012
 ทรงผมสั้น สีสันของเส้นผมช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับใบหน้าได้เป็นอย่างดี
ทรงผมสั้้น 2012
 ทรงผมสั้น เปรี้ยวซ่าแบบมีสไตล์ ช่วยให้ดูหน้าเด็กขึ้นอีกด้วย
ทรงผมสั้้น 2012
 ทรงผมสั้น ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่เรื่อยๆ

ทรงผม 2012
 ทรงผมดัดยาวประบ่า

ทรงผม 2012
 ผมยาวประบ่า 

 ผมยาวดัดลอน วอลลุ่มของเส้นผมจะช่วยให้ใบหน้าของคุณดูหวานขึ้น

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เทรนด์สีผมมาแรงปี 2012

สีผมเองก็มีเทรนด์แฟชั่นไม่ต่างจากเทรนด์ทรงผม เสื้อผ้า และการแต่งหน้าแต่งตัวอยู่เหมือนกัน และสำหรับเทรนด์สีผมในปี 2012 ที่กำลังจะมาถึงนี้จะเป็นอย่างไร ลองตามมาดูรีวิวสีผมที่กระปุกดอทคอมสรุปรวบรวมมาจากเว็บไซต์แฟชั่นของต่างประเทศกันค่ะ
สำหรับสีผมที่จะมาแรงในปี 2012 นี้ จะเน้นโทนที่ทึบและเข้มขึ้นกว่าปี 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งนิยมสีโทน ดำ น้ำตาล บลอนด์ และแดง อันเป็นสีที่ครอบคลุมเข้ากันได้ดีกับผิวทุกโทน
ในปี 2012 นี้ สีที่จะมาแรงยังคงมีโทน “สีน้ำตาล” อยู่ด้วย ตั้งแต่น้ำตาลช็อกโกแลตเข้ม ๆ ไปจนถึงน้ำตาลคาราเมล และกระทั่งโทนอ่อนสุดอย่างน้ำตาลบลอนด์ ซึ่งเป็นบลอนด์สีสว่างอมน้ำตาล รวมทั้งการเพิ่มประกายให้ใบหน้าดูบลิ๊ง ๆ พร้อมทั้งอบอุ่นไปด้วยประกายผมสีน้ำตาลทองแบบโกลเด้นฮันนี่
และสำหรับสาวผิวขาวอย่ามองข้าม “สีแดงคอปเปอร์” และ “สีแพลตตินั่มบลอนด์” เป็นอันขาด เพราะจะเป็นสีที่จุดประกายความโดดเด่นให้กับคุณได้เป็นอย่างดี สำหรับสีแดง ให้ลืมการกัดสีหรือทำไฮไลท์ด้วยสีแดงจี๊ดไปก่อน เพราะปีหน้านี้โทนแดงที่กำลังจะมาคือการทำสีผมแบบเหลือบแดงทั่วทั้งศีรษะ ถึงจะไม่เป็นสีแดงเปรี้ยวจี๊ด แต่รับรองว่าประกายสีแดงสม่ำเสมอทั้งศีรษะแบบนี้ จะทำให้คุณดูโด่ดเด่นออกมาได้ไม่ยากเลย
ส่วนผมสีแพลตตินั่มบลอนด์นั้นก็จะเป็นที่นิยมไม่แพ้สีอื่น ๆ อย่างในตอนนี้ก็เริ่มเห็นเหล่านางแบบทั้งหลายมีผมสีแพลตตินั่มบลอนด์สว่างสวยกันไปไม่น้อยแล้ว อย่างเช่นเหล่านางแบบของแบรนด์ Marc Jacobs โดยสีนี้จะทำให้คุณดูโดดเด่นได้ดีไม่แพ้สีแดง ยิ่งถ้าเป็นผมยาวสลวยสีบลอนด์สว่างแบบนี้ ยามใส่เสื้อสีเข้ม ๆ จะตัดกันดูสะดุดตาดีนักเชียว
นอกจากเทรนด์สีผมฮิต ๆ เหล่านี้แล้ว ก็ยังมีเทรนด์การเติมลูกเล่นให้กับสีผมที่จะมาแรงไม่แพ้กัน ได้แก่ การทำสีผมเลียนแบบสีฟาง หรือ “Ombré” ซึ่งเป็นการทำสีผมไล่ระดับเข้มไปหาอ่อนตั้งแต่โคนผม กลางผม ลงมาจนถึงปลาย ส่วนจะเล่นเฉดสีเข้มมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจและสีผิวของตัวผู้ทำ และอีกหนึ่งลูกเล่นสนุก ๆ อย่างสุดท้าย สำหรับเทรนด์สีผมในปี 2012 คือการทำไฮไลท์สีผมที่เรียกว่า “Balayage” หรือ “Balliage” ซึ่งเป็นเทคนิคการทำไฮไลท์ที่เล่นสีเส้นผมโดยเว้นบริเวณโคนผมให้เป็นสีธรรมชาติอยู่เช่นเดิม หรือปาดสีไฮไลท์ให้ออกมาอ่อนมาก ๆ เท่านั้น เหมือนกับตั้งใจปล่อยโคนผมให้งอกขึ้นมาโดยที่ ช่วงความยาวของเส้นผมยังออกสีที่ทำสีผมเอาไว้ โดยที่สีไฮไลท์ที่จะทำ จะเป็นโทนสีธรรมชาติ หรือว่าจะเป็นสีสด ๆ จี๊ด ๆ ก็ได้นั่นเอง
ดูท่าทางแล้วปี 2012 นี้ เทรนด์สีผมก็ยังคงโลดแล่นหลากหลายไม่เบาเลยทีเดียวค่ะ เหล่าแฟชั่นนิสต้าทั้งหลายถ้าไม่อยากตกเทรนด์ หลังเลือกแบบที่ตัวเองชอบเพื่อไปเปลี่ยนลุคต้อนรับปี 2012 แล้ว ก็อย่าลืมปรับให้เหมาะสมกับตัวเองด้วยนะคะ รับรองแบบนี้สวยไม่ตกยุคชัวร์ ๆ เลยล่ะ :)

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

บึงแก่นนคร

บึงแก่นนคร

อ. เมือง จ. ขอนแก่น



  •  
    บึงแก่นนคร ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลกลางเมืองขอนแก่น เป็นบึงขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ 603 ไร่ นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์ "เจ้าเพียเมืองแพน" ผู้ก่อตั้งเมืองขอนแก่นแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่นิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ และทำกิจกรรมนันทนาการของชาวเมืองเพราะมีบรรยากาศสบายๆ พื้นที่โดยรอบมีการปรับปรุงตกแต่งให้เป็นสวนสุขภาพ ประดับประดาด้วยประติมากรรมรูปต่างๆดูเพลินตาเพลินใจ ยิ่งไปกว่านั้นทางเทศบาลยังปลูกต้นคูณ และไม้ดัดไว้โดยรอบเพิ่มความร่มรื่นสวยงามให้กับสถานที่ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีสนามเด็กเล่นและร้านอาหารเปิดบริการหลายประเภทอีกด้วย








  • วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554

    เซ็นทรัลขอนแก่น

    เซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น เป็นศูนย์การค้าในจังหวัดขอนแก่น ของภาคอีสาน ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกมิตรภาพ-ศรีจันทร์ ติดประตูเมืองขอนแก่น ก่อสร้างเมื่อปลายปี พ.ศ. 2550 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2552 เปิดบริการเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2552 มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท


    การก่อสร้าง

    เดิมที่ดิน 35 ไร่บริเวณดังกล่าวเป็นโรงสีเก่าของตระกูลหงษ์แสงไทย ซึ่งได้ปล่อยให้เป็นที่ดินรกร้าง จากนั้นบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด ได้เจรจาตกลงซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าวมูลค่า 800 ล้านบาท และยื่นอนุญาตสร้างอาคารห้างสรรพสินค้าต่อเทศบาลนครขอนแก่น มูลค่า 3,300 ล้านบาท
    เทศบาลนครขอนแก่นได้ออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารให้กับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนาขอนแก่น จำกัด เลขที่ 391/2550 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2550 โดยทำการก่อสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 5 ชั้น
    ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น ก่อสร้างโดยบริษัท อิตัลไทย เทวี จำกัด


    พื้นที่ใช้สอย

    • ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (ชั้นที่ 1-5) รวม 20,000 ตารางเมตร
    • ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต (ชั้นล่างฝั่งพลาซา) 6,500 ตารางเมตร
    • พาวเวอร์บาย (ชั้น 3 ฝั่งพลาซา) 1,500 ตารางเมตร
    • ซุปเปอร์สปอร์ต (ชั้น 3 ในโรบินสัน)1,000 ตารางเมตร
    • บีทูเอส (ชั้น G ฝั่งโรบินสัน)1,000 ตารางเมตร
    • Food Park ศูนย์อาหาร (ชั้น 4) 1,500 ตารางมตร
    • Play Land สวนสนุก (ชั้น 4) 300 ตารางเมตร
    • โรงภาพยนตร์ เอสเอฟ ซีนีมา ซิตี้ (ชั้น 5) 6,000 ตารางเมตร
    • ลานโบว์ลิ่ง เอสเอฟ สไตร์ท โบวล์ แอนด์ มิวสิค ซิตี้ (ชั้น 4) 2,500 ตารางเมตร
    • ฟิตเนส เฟริ์ส (ชั้น 4) 2,400 ตารางเมตร
    • กาแลคซี่ (เกมส์) (ชั้น 4) 300 ตารางเมตร
    • ร้านค้าเช่าตั้งแต่ชั้น 1-4 รวม 18,500 ตารางเมตร
    • ร้านอาหารตั้งแต่ชั้น 1-4 รวม 8,000 ตารางเมตร
    • ร้านค้าย่อยโซนแฟชั่น พลัส ชั้นล่าง 2,200 ตารางเมตร
    • ไอทีโซน ชั้น 3 รวม 1,500 ตารางเมตร
    • พื้นที่โถงสำหรับจัดกิจกรรมภายในห้างฯ มีพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร
    • พื้นที่กิจกรรมภายนอกตัวอาคาร(ลานข้าวเหนียว) 3,000 ตารางเมตร
    • ที่จอดรถยนต์ 2,500 คัน และจักรยานยนต์ 1,000 คัน รวม 60,000 ตารางเมตร
    สำหรับธนาคารพาณิชย์ที่เปิดให้บริการประกอบด้วย
    • ชั้น 1 ธนาคารไทยพาณิชย์
    • ชั้น 2
      • ธนาคารออมสิน
      • ธนาคารธนชาติ
      • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
      • ธนาคารทหารไทย
      • ธนาคารไทยพาณิชย์ (สาขาที่ 2)
      • ธนาคารกรุงไทย
      • ธนาคารกสิกรไทย
      • ธนาคารกรุงเทพ
      • อิออน
    ร้านอาหารได้แก่
    • ชาบูชิ
    • ซูกิชิ
    • AKA
    • HOT POT
    • ZEN
    • FUJI
    • YAYOI
    • SIZZLER
    • SANTAFE
    • BLACKCANYON

    คำทำนาย 2012 จริงหรือไม่

    ปฏิทินมายาทำนายว่า ปี ค.ศ. 2012 เป็นวาระสุดท้ายของโลกจริงหรือ?

    ปฏิทินมายามีหลายแบบ แบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับปี ค.ศ. 2012 คือแบบที่เรียกกันว่า ปฏิทินรอบยาว (long count) ระบุวันด้วยชุดของตัวเลข ตัวเลขชุดนี้แทนวันที่ได้ยาวนาน 5,126 ปี เทียบกับวันที่ตามระบบปฏิทินสากลตั้งแต่ วันที่ 11 สิงหาคม 3114 ปีก่อนคริสต์กาลไปจนสุดจำนวนเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012
    การสิ้นสุดของตัวเลขปฏิทินมายา หรือการครบจำนวนสูงสุดที่กำหนดไว้ในระบบนับวันระบบใดระบบหนึ่ง จะแสดงถึงการสิ้นสุดของโลกเชียวหรือ
    คอมพิวเตอร์สมัยก่อนก็มีระบบปฏิทินในตัวเครื่องที่แสดงวันเดือนปีได้จนถึงสิ้น ค.ศ. 1999 อันเป็นที่รู้จักกันในนามของปัญหา Y2K แต่เมื่อสิ้นสุด ค.ศ. 1999 โลกก็ไม่ได้แตกระบบนับวันของคอมพิวเตอร์
    ระบบบอกพิกัดจีพีเอส ก็มีระบบนับสัปดาห์เป็นของตัวเอง ซึ่งตัวเลขจะสุดจำนวนที่วันที่ 21 สิงหาคม 2542 ทำนองเดียวกับ Y2K ของคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อสิ้นวันที่ 21 สิงหาคม 2542 โลกก็ไม่ได้แตกตามระบบจีพีเอส
    ทำนองเดียวกัน โลกก็จะไม่แตกสลายเพราะว่าสุดตัวเลขปฏิทินมายา หลังวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 ปฏิทินมายาก็จะเริ่มนับรอบใหม่

    วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

    ของฝากจากขอนแก่น

     สินค้า OTOP 
    ชื่อผลิตภัณฑ์ OTOPข้าวเกรียบพืชผักผลไม้
    สถานที่ติดต่อ/โทรศัพท์ตำบลบ้านฝาง อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น
    ลายละเอียดข้าวเกรียบพืชผักผลไม้ กรอบมัน ไม่เหม็นหืน สะอาด อร่อย มีประโยชน์ตามโภชนาการ โดยเฉพาะ วิตามินของผักและผลไม้
    สินค้า OTOP
    ชื่อผลิตภัณฑ์ OTOPผ้าโสล่งไหม
    สถานที่ติดต่อ/โทรศัพท์ตำบลป่าหวายนั่ง อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น
    ลายละเอียดผลิตภัณฑ์โสล่งไหม เป็นผ้าไหมมัดหมี่ทอด้วยฟืม 2 ตะกอ เป็นผ้าที่ทอด้วยเส้นไหมล้วน ๆ ทางเครือและทางทอ เนื้อผ้าแน่น ย้อมด้วยสีธรรมชาติ สวยงาม น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับในการนำไปตัดเสื้อสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี


    สินค้า OTOP
    ชื่อผลิตภัณฑ์ OTOPกุนเชียงหมู
    สถานที่ติดต่อ/โทรศัพท์ตำบลแคนเหนือ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น
    รายละเอียดกุนเชียงหมู(OTOP)(APEC)
    สินค้า OTOP
    ชื่อผลิตภัณฑ์ OTOPผ้าไหม หัวใจว่าง
    สถานที่ติดต่อ/โทรศัพท์ตำบลหัวหนอง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น
    รายละเอียดผลิตภัณฑ์ผ้าไหม หัวใจว่าง

    ประวัติขอนแก่น

    ประวัติจังหวัดขอนแก่น


                                        

                  จากหลักฐานการสำรวจบริเวณบ้านโนนนกทา บ้านนาดี ตำบลบ้านโคก อำเภอภูเวียง ของ วิลเฮล์ม จิโซลไฮม์ เรื่อง เออร์ลี่บรอนซ์ อิน นอร์ธอิสเทริน์ ไทยแลนด์ ได้ค้นพบเครื่องสำริดและเหล็กมีเครื่องมือเครื่องใช้เป็นขวาน รวมทั้งแบบแม่พิมพ์ที่ใช้หล่อ มีกำไลแขนสำริดคล้องอยู่ที่โครงกระดูกท่อนแขน ซ้อนกันหลาย วง พบกำไรทำด้วยเปลือกหอย รวมทั้งพบแหวนเหล็กไน แสดงว่ามีการปั่นด้ายทอผ้าใช้ในยุคนั้นแล้ว นอกจากนี้ ยังพบขวานทองแดง อายุ 4,600-4,800 ปี เป็นหัวขวานหัวเดียวที่พบในประเทศไทย ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ในชั้นดินที่ 20 การกำหนดอายุโดยคาร์บอนด์ 14 จากชั้นดินที่ 19ปรากฏว่าอายุ 4,275 ปี จากหลักฐานข้างต้นพิสูจน์ให้เห็นว่าอาณาเขตบริเวณจังหวัดขอนแก่น เป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรม วัฒนธรรมอันสูงสุดมาแต่ดึกดำบรรพ์ มีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อนสมัยพุทธกาลหลายพันปี

     ในปี พ.ศ. 2332 ท้าวเพียเมืองแพน ได้พาบุตรพร้อมด้วยผู้คนประมาณ 330 ครอบครัว อพยพจากบ้านชีหล่น แขวงเมืองสุวรรณภูมิ (ปัจจุบันอยู่ในเขตท้องที่ อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด) มาตั้งอยู่ที่บ้านบึงบอน (บ้านเมืองเก่า ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น ปัจจุบันนี้) เดิมขึ้นอยู่กับพระยานครราชสีมา ต่อมามีใบบอกลงมายังกรุงเทพฯและพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระบรมราชโองการยกฐานะบ้านบึงบอนขึ้นเป็น "เมืองขอนแก่น" เมื่อ พ.ศ. 2340 ตั้งให้ "ท้าวศักดิ์" ซึ่งเป็น "ท้าวเพียเมืองแพน" เป็นเจ้าเมืองขอนแก่น มีนามว่า "พระนครศรีบริรักษ์บรมราชภักดี" หรือผู้ว่าราชการเมืองขอนแก่นคนแรก ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
               การตั้งชื่อเมืองขอนแก่นแต่เดิมท้องถิ่น บ้านขาม ( ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ในปัจจุบัน) มีเนินดินอยู่ตรงกลางทุ่ง มีน้ำล้อมรอบในหน้าน้ำและมีต้นมะขามต้นหนึ่งตายไปนานแล้วเหลือแต่ตอที่เป็นแก่น เมื่อมีการสร้างพระธาตุพนม พระยาหลังเขียวและพระอรหันต์ทั้ง 9 พร้อมด้วยข้าราชบริพารจะนำพระอังคารของพระพุทธเจ้าไปบรรจุที่พระธาตุพนม แต่การเดินทางมาค่ำมืดที่ตรงดอนที่มีน้ำล้อมรอบ จึงหยุดและวางสัมภาระตลอดจนพระอังคารไว้บนตอมะขาม ขณะพักผ่อนหลับนอน พอรุ่งขึ้นจึงเดินทางต่อไป
              เมื่อไปถึงพระธาตุพนมปรากฏว่าได้สร้างเสร็จแล้ว จะเอาอะไรเข้าบรรจุอีกไม่ได้จึงพากันนมัสการพระธาตุพนมแล้วเดินทางกลับมาตามทางเดิม เมื่อมาถึงเนินดินที่เคยพักผ่อน ต้นมะขามที่ตายไปเหลือแต่แก่นกลับผลิใบเขียวชอุ่มเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก พระอรหันต์ทั้ง 9 พร้อมด้วยพระยาหลังเขียวจึงตกลงสร้างเจดีย์คร่อมต้นมะขามไว้ แล้วบรรจุพระอังคารของพระพุทธเจ้าลงไว้ ชาวบ้านเรียกเจดีย์องค์นี้ว่า "พระธาตุขามแก่น"
              เมื่อท้าวเพียเมืองแพนอพยพมาจากบ้านชีหล่น มาตั้งอยู่ที่บ้านบึงบอน จึงได้ถือเอาปูชนียสถานแห่งนี้ เป็นชื่อเมืองขอนแก่น เพราะท่อนไม้แห้ง ๆ เหลือแต่แก่นนั้น ชาวพื้นเมืองจะเรียกว่า "ขอน" ท้าวเพียเมืองแพน ผู้เป็นปฐมเจ้าเมืองจึงได้ตั้งชื่อเมืองว่า "ขอนแก่น" 
    เมื่อสร้างเมืองเสร็จแล้ว ท้าวเพียเมืองแพน ได้สร้างวัดขึ้น 3 วัด คือ วัดใต้ (ปัจจุบันคือ วัดธาตุพระอารามหลวง) วัดกลาง (ปัจจุบันคือ วัดกลางเมืองเก่า) และวัดเหนือ (ปัจจุบันคือ วัดหนองแวงพระอารามหลวง) เมืองขอนแก่น ตั้งอยู่บ้านดอนพันชาดเป็นเวลา 27 ปีและได้มีการย้ายที่ตั้งหลายครั้ง ที่นานที่สุดคือตั้งที่ตำบลพระลับ 55 ปี จากนั้นจึงย้ายมาที่ศูนย์ราชการปัจจุบัน มีตำแหน่งที่เรียกว่าพระนครศรีบริรักษ์ 7 คน ที่สำคัญ คือ ท้าวอิน ท้าวมุ่ง นางน้อย พระนครศรีบริรักษ์ (ท้าวจาม) 
              จังหวัดขอนแก่น ได้สร้างอนุสาวรีย์ท้าวเพียเมืองแพน บริเวณสนาม เจ ซี (เดิม) ริมบึงแก่นนครข้างที่ตั้งสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ขอนแก่นเดิม เมื่อปี 2545 ได้มีการปรับปรุงบูรณะอนุสาวรีย์และบริเวณโดยรอบจนสวยงาม และมีการทำพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์ท้าวเพียเมืองแพน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี และเมื่อปี 2547 ได้มีพิธีบวงสรวงในช่วงการจัดงานเทศกาลไหมฯ ด้วยเนื่องจากเริ่มมีการแสดง แสง-เสียง เล่าตำนานเมืองลือเรื่องนครขอนแก่น ณ เวทีกลาง เป็นครั้งแรก

    คำขวัญประจำจังหวัด

    พระธาตุขามแก่น เสียงแคนดอกคูน ศูนย์รวมผ้าไหม ร่วมใจผูกเสี่ยว เที่ยวขอนแก่นนครใหญ่ ไดโนเสาร์ลือก้อง เหรียญทองมวยโอลิมปิค